ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

นายกฯ กำชับติดตามยาเสพติดรูปแบบใหม่ บดใส่ซองเกลือแร่ ซองคอลลาเจน ซองกาแฟ โพสต์ขายในโซเซียลมีเดีย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดขณะนี้มีรูปแบบและช่องทางการขายที่เปลี่ยนไป โดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตรวจสอบพบการโพสต์จำหน่ายยาอี ที่บดบรรจุในซองผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเกลือแร่ ซองคอลลาเจน และซองกาแฟ ในโซเชียลมีเดีย โดยบัญชีหรือแอคเคาท์ผู้ใช้ติ๊กต๊อกในประเทศเพื่อนบ้าน มีการโฆษณาแจ้งเบอร์โทรศัพท์ WhatsApp เป็นช่องทางติดต่อ ซึ่งแม้ในโพสต์จะไม่แจ้งการมีบริการส่งเข้าประเทศไทย แต่พบว่ามีสมาชิกผู้ใช้ติ๊กต๊อกจากประเทศไทยเข้าไปติดต่อซื้อด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับรายงานและห่วงใยต่อสถานการณ์การค้ายาเสพติดที่เปลี่ยนแปลงรูปแบบไป จึงกำชับให้ ป.ป.ส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และย้ำเตือนประชาชนอย่าเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่าสั่ง อย่าโพสต์ อย่าแชร์โฆษณายาเสพติด เพราะหากตรวจสอบพบการโพสต์ที่เข้าข่ายเป็นโฆษณายาเสพติด มีโทษหนัก จำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการขายและกระทำใดๆ ที่แม้จะทำในประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากเป็นกรณีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติดของไทยมีโทษหนักทั้งจำทั้งปรับและยึดทรัพย์สิน

นอกจากนี้ ยังแนะนำให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานที่มีการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หากพบว่ามีพฤติกรรมเสี่ยงและพบสิ่งต้องสงสัย ควรพูดคุยด้วยเหตุผล บอกกล่าวถึงผลเสียต่อสุขภาพ รวมถึงอันตรายที่จะตามมา ไม่ใช้ความรุนแรง และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่สายด่วนบำบัดยาเสพติด 1165 หรือเข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดได้ที่ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาคทั้ง 6 แห่ง

ข้อมูลข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : พนิตนาฏ ขวัญแสนสุข / สวท.

ผู้เรียบเรียง : อรจินดา บุรสมบูรณ์

แหล่งที่มา : สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.